5.1. นโยบายเกี่ยวกับทรัพยากรแร่และการทำเหมืองแร่นโยบายภาครัฐเกี่ยวกับทรัพยากรแร่และการทำเหมืองแร่ของประเทศเมียนมาจะไม่มีการลงทุนของภาครัฐใหม่ แต่จะมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศในอุตสาหกรรมเหมืองแร่แทน โดยนโยบายภาครัฐของประเทศเมียนมาสำหรับการทำเหมืองแร่ และพัฒนาทรัพยากรแร่ มีดังนี้ 1. ส่งเสริมให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นและนำรายได้เข้าสู่ประเทศ (ที่มา : www.cntraveler.com, 2011)
5.2. กฎหมายแร่ รัฐบาลเมียนมาได้ออกกฎหมายแร่ Myanmar Mines Law (1994) และกฎระเบียบเหมืองแร่ Myanmar Mines Rules (1996) สำหรับควบคุมการสำรวจและทำเหมืองแร่ และได้มีการประกาศใช้กฎหมายแร่รัตนชาติ Myanmar Gemstones Law (1995) เพื่อควบคุมการทำเหมืองแร่รัตนชาติ ที่มา : Hein Htet, 2015 : ที่มา : CTV News, 2015)
5.3. รูปแบบของการลงทุนทำเหมืองแร่ในประเทศเมียนมาเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลเมียนมาได้เน้นให้มีการร่วมทุนกับภาครัฐหรือภาคเอกชนของเมียนมา ดังนั้นรูปแบบการร่วมทุนด้านเหมืองแร่จะมี 2 ลักษณะ คือ รูปแบบการร่วมลงทุนกับรัฐวิสาหกิจเมียนมา และการร่วมลงทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น มีรายละเอียดดังนี้
รูปแบบการร่วมลงทุนกับรัฐวิสาหกิจเมียนมา
บุคคลหรือองค์กรสามารถเข้าดำเนินกิจกรรมร่วมค้ากับรัฐวิสาหกิจเหมืองแร่ (Mining Enterprise No. 1, 2, 3) ได้ โดยจะต้องเจรจาและทำสัญญาระบุการแบ่งผลประโยชน์ในรูปแบบการแบ่งผลผลิตหรือการแบ่งผลกำไร กระทรวงเหมืองแร่มีความยืดหยุ่นในการเข้าถือครองหุ้นของกิจการร่วมลงทุน ซึ่งอาจจะมากกว่า หรือน้อยกว่า หรือเท่ากัน เพื่อให้มีความเป็นเหตุเป็นผลในการลงทุน การร่วมลงทุนกับภาคเอกชนท้องถิ่น
เพื่อเป็นการกระตุ้นการเพิ่มผลผลิตในภาคแร่ และให้นักลงทุนท้องถิ่นมีโอกาสมีส่วนร่วมและลงทุนในอุตสาหกรรมด้านแร่ รัฐบาลเมียนมาจึงได้มีการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนท้องถิ่นในการผลิตแร่ดีบุก พลวง ทองคำ รัตนชาติ หยก แร่ที่ผลิตได้จะมีการแบ่งผลผลิตระหว่างผู้เข้าร่วมลงทุน ที่มา : Hein Htet, 2015 : ที่มา : CTV News, 2015)
5.4. ขั้นตอนและเงื่อนไขการขออนุญาตด้านแร่เมื่อนักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปแล้ว และพบแนวโน้มที่จะเข้าไปลงทุนในเมียนมาตลอดจนสามารถกำหนดชนิดแร่และพื้นที่ในเบื้องต้นแล้ว ต้องทำการศึกษาในรายละเอียดถึงพื้นที่ของศักยภาพแหล่งแร่ ความน่าสนใจ และแนวโน้มของการลงทุนทำเหมืองแร่ต่อไป ขั้นตอนของการขออนุญาตลงทุนทำเหมืองแร่ในประเทศเมียนมามีกระบวนการดังแสดงในรูปด้านล่าง ขั้นตอนการอนุญาตลงทุนด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (ที่มา: กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2557)
5.5. ภาษีและค่าธรรมเนียมด้านแร่ภาษีและค่าธรรมเนียมภายใต้กฎหมายเหมืองแร่ ประกอบด้วย ค่าภาคหลวงแร่ และค่าเช่าที่ดิน รายละเอียดดังนี้ ค่าภาคหลวงแร่ (Royalty)
ค่าภาคหลวงภายใต้กฎหมายเหมืองแร่เป็นภาษีที่คำนวณจากยอดขายตามคุณภาพแร่และราคาในตลาดโลก ผู้ครอบครองใบอนุญาตผลิตแร่จะต้องจ่ายค่าภาคหลวงตามกฎหมายแร่ โดยแตกต่างกันไปตามชนิดแร่ ได้แก่ กลุ่มแร่โลหะ คิดในอัตรา 4% , กลุ่มแร่โลหะมีค่า ในอัตรา 5%, กลุ่มแร่อุตสาหกรรมและหิน ในอัตรา 2% และแร่รัตนชาติ ในอัตรา 20% ค่าเช่าที่ดิน (Dead Rent)
กระทรวงเหมืองแร่กำหนดอัตราค่าเช่าเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละปี ดังตารางต่อไปนี้
(ที่มา: Department of Mines, Director General Presentation, 2014)
(ที่มา: Department of Mines, Director General Presentation, 2014)
5.6. การวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนเนื่องจากมีแนวโน้มว่าการศึกษาและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนเนื่องจากการทำเหมืองแร่จะมีบทบาทและความสำคัญมากขึ้น ดังเช่นที่มีเหตุการณ์ประท้วงการทำเหมืองแร่ทองแดงเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นกฎหมายในประเทศเมียนมาและมาตรฐานปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมจะมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเหมืองแร่ในประเทศเมียนมา ประกอบด้วย • Environment Conservation Law (2012) ได้ประกาศใช้แล้ว แต่กำลังร่างกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องรวมทั้งข้อบังคับในการทำ EIA (Environmental Impact Assessment)
(ที่มา : www.myanmarvels.com, 2014)
5.7. หน่วยงานด้านแร่ หน่วยงานด้านแร่ของภาครัฐที่มีส่วนในการพิจารณาใบอนุญาตด้านเหมืองแร่ ได้แสดงเป็นแผนผังโครงสร้างดังรูปด้านล่าง ซึ่งกระบวนการขอใบอนุญาตสำรวจแร่และใบอนุญาตทำเหมืองแร่จะเกี่ยวข้องหรือต้องการคำแนะนำและความเห็นจากหน่วยงานของรัฐและชุมชนในท้องถิ่น และความเห็นจากกระทรวง Ministry of Forestry and Environment ที่เกี่ยวข้องกับการใช้พื้นที่ป่าไม้และที่ดิน ก่อนที่กระทรวงเหมืองแร่จะอนุมัติ
แผนผังแสดงโครงสร้างของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขอใบอนุญาตด้านเหมืองแร่ ส่วนหน่วยงานภาคเอกชนที่มีบทบาทในด้านการทำเหมืองแร่ และมีแนวโน้มในการช่วยหาผู้ร่วมลงทุนในท้องถิ่นกับบริษัทของไทย หรือสนับสนุนการลงทุนและการค้าด้านแร่ ประกอบด้วย Myanmar Federation of Mining Association, Myanmar Gems & Jewellery Entrepreneurs Association, Myanmar Gold Entrepreneurs Association และ Myanmar Engineering Society
5.8. สถานการณ์อุตสาหกรรมแร่ กระทรวงเหมืองแร่ของประเทศเมียนมาได้มีการออกใบอนุญาตด้านแร่ไปแล้ว จำนวน 1,355 ใบ ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2012 โดยแบ่งออกเป็น ใบอนุญาตสำรวจแร่ จำนวน 551 ใบ ใบอนุญาตทำเหมืองขนาดเล็กจำนวน 520 ใบ ใบอนุญาตทำเหมืองขนาดใหญ่จำนวน 129 ใบ ใบอนุญาตทำเหมืองแบบยังชีพจำนวน 20 ใบ และใบอนุญาตแต่งแร่จำนวน 135 ใบ สำหรับแร่ดีบุก-ทังสะเตน ทองแดง พลวง เหล็ก ถ่านหิน หินอ่อน แกรนิต ทองคำและหินปูน (ที่มา : Richard W. Hughes, 2014) (ที่มา : www.mmbiztoday.com, 2014)
5.9. สรุปและวิเคราะห์ข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องด้านแร่ 1) นโยบายและกฎระเบียบของรัฐบาลเมียนมาสนับสนุนให้การลงทุนสำรวจและทำเหมืองแร่เป็นไปแบบร่วมทุนกับรัฐหรือบริษัทท้องถิ่น ดังนั้นผู้ลงทุนจากประเทศไทยจึงควรกำหนดยุทธศาสตร์ใน 2 ลักษณะ คือการขอใบอนุญาตสำรวจและทำเหมืองแร่โดยตรงเป็นของตนเองและหาผู้ร่วมลงทุนจากภาคเอกชนของเมียนมา หรือทำสัญญาร่วมทุนกับภาคเอกชนของเมียนมาที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว (ที่มา : Paula Bronstein, 2015) |
กฏระเบียบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|